หลอดเลือดหัวใจตีบ คืออะไร

                หลอดเลือดหัวใจตีบ คือภาวะที่หลอดเลือดที่ไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจ ตีบแคบลงหรืออุดตันจากการสะสมของไขมัน พลาค หรือแคลเซียม ทำให้เลือดไหลไปเลี้ยงหัวใจได้น้อยลง ซึ่งอาจนำไปสู่ กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด หรือแม้แต่ หัวใจวายเฉียบพลัน หากไม่ได้รับการรักษาทันเวลา

สาเหตุของหลอดเลือดหัวใจตีบ

• ไขมันในเลือดสูง
• เป็นเบาหวาน
• ไม่ออกกำลังกาย
• สูบบุหรี่
• มีภาวะน้ำหนักเกินหรือเป็นโรคอ้วน
• มีความดันโลหิตสูง
• ภาวะเครียดสะสม
• คนในครอบครัวมีประวัติการเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ

หลอดเลือดหัวใจตีบ อาการเป็นอย่างไร

1. เจ็บหน้าอก เหมือนมีอะไรทับ บางคนอาจปวดร้าวไปที่แขนซ้าย คอ หรือขากรรไกร มักจะปวดเมื่อออกแรง

2. เหนื่อยง่าย เช่น ทำกิจวัตรประจำวันแล้วรู้สึกเหนื่อยกว่าปกติ

3. หัวใจเต้นเร็วกว่าปกติ และใจสั่น

4. หายใจไม่ทั่วท้อง และหายใจลำบาก

5. มักรู้สึกเวียนหัว หน้ามืด คล้ายจะเป็นลม

ความอันตรายของหลอดเลือดหัวใจตีบ

หายปล่อยไว้ไม่รักษา อาจทำให้เกิดภาวะดังนี้

• ภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด
• หัวใจล้มเหลวเรื้อรัง
• หัวใจวายเฉียบพลัน
• เสียชีวิตอย่างเฉียบพลัน

แนวทางการรักษาโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ

1. รักษาด้วยยา ควรอยู่ในการดูแลของแพทย์เพื่อความปลอดภัย มียาหลายประเภทที่แพทย์จะแนะนำให้บริโภค

• ยาลดไขมัน
• ยาลดความดัน
• ยาต้านเกล็ดเลือด
• ยาขยายหลอดเลือด

2. การทำบอลลูนและใส่ขดลวด มีจุดประสงค์เพื่อ

• การทำบอลลูน เพื่อเปิดหลอดเลือดให้ขยาย เลือดไหลเวียนสะดวกขึ้น
• การใส่ขดเลือด เพื่อค้ำผนังหลอดเลือดไม่ให้ตีบซ้ำ

3. การผ่าตัดทำทางเบี่ยงหลอดเลือดหัวใจ

• สำหรับผู้ที่มีอาการหลอดเลือดตีบอย่างรุนแรง และผู้ที่มีอาการหลอดเลือดตีบหลายตำแหน่ง

วิธีป้องกันหลอดเลือดหัวใจตีบ

• ปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหาร ทานอาหารที่มีประโยชน์ หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง
• ออกกำลังกายอย่างเป็นประจำและสม่ำเสมอทุกวัน วันละไม่น้อยกว่า 1 ชั่วโมง 30 นาที
• ควบคุมน้ำหนักตัว
• งดสูบบุหรี่และงดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
• ดูแลโรคประจำตัวที่เป็นให้อยู่ในเกณฑ์ที่ดี ควบคู่กับการดูแลตัวเอง

หลอดเลือดหัวใจตีบ เป็นโรคที่พบได้บ่อยและอันตรายถึงชีวิต โดยเฉพาะหากไม่รู้ตัวและไม่รักษาทันเวลา การสังเกต หลอดเลือดหัวใจตีบ อาการ และตรวจสุขภาพเป็นประจำ จะช่วยลดความเสี่ยงได้มาก พร้อมทั้งการปรับไลฟ์สไตล์ให้เหมาะสม เช่น ออกกำลังกาย เลี่ยงอาหารมัน และลดเครียด เป็นวิธีป้องกันอันตราย และะช่วยให้หัวใจแข็งแรงขึ้นได้

“สิว” ไม่ว่าจะมากหรือน้อย ก็คงไม่มีใครชอบให้มันการเกิดขึ้นบนผิวพรรณของตัวเอง โดยเฉพาะบนใบหน้าที่หากทีสิวขึ้นมาเพียงเม็ดเดียว ก็ทำให้คิดหนักไปหลายวัน ซึ่งสิวนั้นมีอยู่หลายชนิด และ “สิวผด” ก็เป็นอีกชนิดหนึ่งที่เรามักจะเห็นมันได้บ่อยๆ บางคนเป็นน้อยบางคนเป็นมากจนต้องพึ่งผลิตภัณฑ์รักษาสิว โดยมันจะมีลักษณะเป็นเม็ดเล็กๆ คล้ายผดผื่นที่ขึ้นตามผิวหนังทั่วไป ช่วงเช้าๆ ที่มันขึ้นมาจะดูเหมือนไม่เป็นอะไรมาก แต่จะเริ่มเห่อขึ้นในช่วงบ่าย บางครั้งลักษณะของสิวผดจะแดงหรือคัน ซึ่งเกิดขึ้นมาได้จากหลายสาเหตุ ทั้งจากมลภาวะแวดล้อม น้ำ อากาศ แสงแดด หรือความร้อน เกิดจากเชื้อยีสต์ P.ovale การแพ้อากาศ ใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับผิวที่ไม่เหมาะกับผิวของตัวเอง เครื่องสำอางหรืออุปกรณ์แต่งหน้าที่ใช้ไม่สะอาดพอ ร่างกายไม่แข็งแรงหรือพักผ่อนไม่เพียงพอ สิ่งเหล่านี้ล้วนแต่ทำให้เกิดสิวผดจนต้องให้ผลิตภัณฑ์รักษาสิวมาเป็นตัวช่วยได้ทั้งนั้น

สิวผดอาจจะดูไม่น่ากลัวเท่าไหร่ แต่หากขึ้นมาซะเต็มหน้าก็สร้างปัญหาให้ได้เหมือนกัน ซึ่งในการรักษานั้นนอกจากการใช้ผลิตภัณฑ์รักษาสิวแล้ว การดูแลตัวเองก็มีส่วนช่วยได้ไม่น้อย โดยหลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้าหากไม่จำเป็น รวมไปถึงการนวดหน้า ขัดหน้า ที่หากมีปัญหาสิวผดอยู่แล้วก็ควรเลี่ยงซะ แล้วล้างหน้าอย่างถูกวิธี หลีกเลี่ยงความเครียด ทำตัวให้สดใส รับประทานอาหารที่ดีมีประโยชน์ โดยเน้นผักผลไม้ ควรเลี่ยงแสงแดด ใช้ผลิตภัณฑ์รักษาสิว ที่อ่อนโยนต่อผิว โดยเลือกชนิดที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากธรรมชาติ หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์รักษาสิวที่มีส่วนผสมของสารเคมีหรือยา ที่สามารถทิ้งสารตกค้างไว้บนผิวเราได้ เพราะนั้นมันอาจจะทำให้เกิดการแพ้ หรือเกิดการอุดตันที่เป็นสาเหตุของสิวผดและสิวชนิดอื่นๆ ได้อีก จนต้องมานั่งรำคาญใจและเสียเวลาในการรักษาสิวนั่นเอง

เรียน Google Analytics ข้อมูลเพิ่มเติม

เรียน WordPress ข้อมูลเพิ่มเติม

สร้างรายได้จากยูทูป ข้อมูลเพิ่มเติม

 

ไลโป 8 อาหารเสริมที่คุณต้องตะลึงกับผลลัพธ์ ในการลดน้ำหนัก ดักจับไขมันส่วนเกิน ได้อย่างน่าทึ่งเลยทีเดียว กับ 3 สารสกัดหลักแบบจัดเต็มกันไปเลย

1.ไลโป 8 มีสารสกัดถั่วขาว ช่วยยับยั้งแป้ง ที่มีคาร์โบไฮเดรต ใม่ให้เปลี่ยนเป็นน้ำตาล คุณสมบัติพิเศษเพราะมีสารสำคัญที่ชื่อว่า ฟาซิโอลามีน ซึ่งมีฤทธิ์ทำให้เอนไซม์อะไมเลสเป็นกลาง ดังนั้น แป้งหรือคาร์โบไฮเดรตที่เราบริโภคเข้าไป หากได้รับ ถั่วขาว เข้าไปในปริมาณ500มิลลิกรัมต่อวัน นั่นคือร่างกายจะได้รับพลังงานจากแป้งลดลงในระดับที่น่าพอใจซึ่งมีผลทำให้การสะสมของไขมันที่เกิดขึ้นจาก การเปลี่ยนรูปของน้ำตาลเป็นไขมันลดลงด้วย ร่างกายจึงต้องเผาผลาญไขมันเก่าที่สะสมออกมาใช้มากขึ้น จึงทำให้น้ำหนักลดลงโดยไม่ต้องใช้วิธีอดอาหาร

2.ไลโป 8 มีสารสกัดส้มแขก ยับยั้งการเกิดไขมันสะสมใหม่และการนำไขมันสะสมเก่าออกไปใช้เป็นพลังงาน สารสกัดจากผลส้มแขกนั้น HCA ที่พบว่ามีคุณสมบัติในการขัดขวางการเปลี่ยนสารอาหารจำพวกน้ำตาลกลูโคส ไม่ให้เปลี่ยนไปเป็นสารอาหารจำพวกไขมันสะสมที่เป็นปัญหาของความ อ้วน และปัญหาทางสุขภาพอื่นๆ จากการศึกษาพบว่า สารเอชซีเอที่สกัดได้จากผลส้มแขกหลังจากที่ถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายแล้วก็จะ ไปขัดขวางการทำงานของเอ็นไซม์ที่มีชื่อว่าเอทีพีซิเตรตไลเอส ทำให้น้ำตาลกลูโคสที่มีมากเกินความต้องการของร่างกาย ไม่สามารถถูกเปลี่ยนเป็นไขมันสะสม ส่งผลในการเร่งการสลายไขมันสะสมที่มีอยู่ในร่างกายให้ สลายออกไปเป็นพลังงาน

3.ไลโป 8 มีไคโตซาน หรือ Chitosan สารสกัดจากสารธรรมชาติชนิดหนึ่งที่มีในกระดองแข็ง ขาและปล้อง เช่นเปลือกกุ้งกั้งและกระดองปู การดักจับไขมันในอาหาร ไคโตซาน โดยไคโตซานมีคุณสมบัติในการดักจับไขมัน จึงมีการนำมาบรรจุแคปซูลเพื่อช่วยลดน้ำหนักสำหรับผู้ที่มีน้ำหนักเกิน มาตรฐานเมื่อรับประทานไคโตซานพร้อมกับอาหารจะทำให้เกิดการรมกลุ่มของไขมันใน ลำไส้ ทำให้ไม่เกิดการดูดซึมและไม่ถูกย่อยสลายสุดท้ายไขมันก็จะถูกขับออกไปพร้อม อุจจาระ

 

อาหารคลีน เป็นอีกหนึ่งทางเลือกใหม่ของการกินเพื่อสุขภาพที่ดี ที่กำลังฮอตฮินอยู่ในกระแสนิยม แต่หลายคนอาจจะคิดว่าการกินอาหารคลีนคงยุ่งยาก ไม่รู้จะทานได้มั๊ย แต่ที่จริงแล้วมันง่ายกว่าที่คิดนะ

การกินอาหารคลีน เป็นการกินเพื่อสุขภาพที่ดี อย่างแท้จริง เพราะแทบจะไม่ผ่านการปรุงแต่งด้วยสารเคมีแถมยังเป็นอาหารที่สดสะอาดอีกด้วย นอกจากจะช่วยรักษาสุขภาพแล้วยังช่วยในการลดน้ำหนักได้อีกด้วย แต่เราจะเลือกกินอาหารคลีนกันอย่างไรดีล่ะ ในวันนี้ได้นำข้อมูลดีๆ มาเล่าสู่กันฟังค่ะ ลองไปดูกันดีกว่าว่าเราจะเลือกกินอาหารคลีนกันยังไงดี

การกินอาหารคลีนไม่ใช่การไดเอต ตามกระแสแฟชั่นเท่านั้น ซึ่งคือการกินเพื่อสุขภาพที่ดี ถ้าหากเราสามารถเปลี่ยนวิถีการกินของเรามากินอาหารคลีนได้โดยถาวร ก็จะทำให้มีสุขภาพที่ดี ไม่จำเป็นต้องคำนวณหรือจำกัดแคลอรี่ให้ยุ่งยากเพียงแค่เราเปลี่ยนจากอาหารทอดและบรรดาอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพมาเป็นธัญพืช, ผลไม้, ผัก และลีนโปรตีนหรือโปรตีนไขมันน้อย ร่างกายของเราก็จะเริ่มตอบสนองอย่างมหัศจรรย์ ตัวอย่างเช่น

วิธีการกินเพื่อสุขภาพที่ดี อาหารคลีนสามารถแบ่งออกเป็น 5 วิธีได้ง่าย ๆ ดังนี้

การกินอาหารคลีน ที่ถูกต้องนั้น ควรแบ่งอาหารใน 1 วัน ออกเป็น 5 – 6 มื้อต่อวัน คือ แบ่งเป็น 3 มื้ออาหารหลัก กับ 2-3 มื้ออาหารว่าง กินห่างกันอย่างน้อยทุก 2 ชั่วโมง เพื่อเป็นการควบคุมให้ระบบการเผาผลาญสามารถทำงานได้ตลอดวัน

C: นับมื้อ ควรมื้อละน้อยๆ แต่กินหลายๆ มื้อ (COUNT your meals)

L: ลีนโปรตีน (LEAN protein)

E : กินผลไม้ และผักหลายสีในทุกมื้อ (EAT fruit and veggies)

A: หลีกเลี่ยงให้ไกล…อาหารแปรรูป (AVOID processed and refined foods)

N: ต้องเลิกกินแบบไร้สติ (NEVER eat mindlessly)

บ่อยครั้งที่เราหยิบจับอาหารใดๆ จะมากินแล้วโดยไม่ได้คิดก่อน คราวหน้าเมื่อเราจะกินอะไร ต้องลองถามตัวเองก่อนว่า อาหารที่อยู่ต่อหน้าพวกนี้มันดีต่อสุขภาพหรือเปล่า และ กินแล้วจะไม่เสียใจทีหลังใช่ไหม